วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Useful English Idioms สำนวนภาษาอังกฤษที่น่าใช้


Average Joe
(แอฟเฝร็ด-จ โจ)
Average แปลว่าเฉลี่ยหรือธรรมดา ส่วน Joe เป็นชื่อผู้ชายหลายๆคน  เมื่อเอามาพูดรวมกันก็กลายเป็นสำนวนที่หมายถึงว่า
ผู้ชายทั่วๆไป ธรรมดาๆ
ตัวอย่างประโยค
ผูหญิง A : I’m so sick of dating Average Joes.
(ไอ-ม โซ สิค อัฟ เดทิง แอฟเฝร็ด-จ โจ-)
ฉันเบื่อการคบผู้ชายธรรมดาๆ
ผู้หญิง B : Well, what do you expect when you’re an Average Jane?
(เว-โอ-ล วัท ดู ยู เอ็ค--เสป็ค-ท เว็น เยอร อัน แอฟเฝร็ด-จ เจน)
แกจะไปคาดหวังอะไรมากในขณะที่แกเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ




If ya snooze, ya lose!
(อิฟ หยะ สนู-ส หยะ ลู-ส) คำว่า snooze แปลว่างีบหลับ ส่วนคำว่า ya ก็ใช้แทนคำว่า you ในภาษาพูดนะครับ ดังนั้นถ้าแปลคำพูดนี้แบบตรงๆก็จะเป็น ถ้าคุณงีบหลับ คุณก็จะเสีย/แพ้  แต่ความหมายที่แท้จริงก็คือว่า ถ้าคุณไม่ใช้โอกาสดีๆที่ผ่านเข้ามา เดี๋ยวจะมีคนอื่นมาฉวยโอกาสนั้นไป  บ่อยครั้งจะใช้สำนวนนี้เมื่อคนลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเราเข้าไปแย่งที่นั่งเค้าอิอิ ดังนั้นคำพูดนี้เปรียบเทียบได้กับ "ลุกเสียม้า" ๕๕๕
ตัวอย่างประโยค
คนA: The condo I wanted is already taken!
(เดอะ ค็อนโด ไอ วอน-ถิด อิส ออล-เร็ด-ดี เท-คิน)
คอนโดที่ฉันอยากได้ มีคนเอาไปแล้ว

คนB: If ya snooze, ya lose!
(อิฟ หยะ สนู-ส หยะ ลู-ส)
ถ้าคุณไม่ใช้โอกาสดีๆที่ผ่านเข้ามาเดี๋ยวจะมีคนอื่นมาฉวยโอกาสนั้นไป

no-brainer
น. (โน เบรน-เนอร) หมายถึงอะไรที่ไม่ต้องใช้สมองคิดเพราะมันง่ายมาก
ตัวอย่างประโยค
That test question was a no-brainer!
(แดท-ท เท็ส-ท เคว็ส-ชัน วัส อะ โน เบรน-เนอร)
ข้อสอบข้อนั้นง่ายมากเลย      





This is not the time or the place.
(ดิส อิส นอ-ท เดอะ ไท-ม โอ-เออร เดอะ เพล-ส) แปลตรงๆคือ นี่ไม่ใช่เวลาหรือสถานที่แต่ว่าความหมายที่แท้จริงก็คือ การกระทำหรือคำพูดของใครคนหนึ่งไม่เหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่ถูกกาลเทศะนั่นเอง
 
ตัวอย่างประโยค
สมมุติว่าไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์แล้วในระหว่างเวลาที่เขาฉายภาพยนตร์นั้นมีคนรับโทรศัพท์และคุยดังๆ  คุณบอกเขาได้เลยว่า
This is not the time or the place to be talking on the phone.
(ดิส อิส นอ-ท เดอะ ไท-ม โอ-เออร เดอะ เพล-ส ทิอู บี ทอ-คิง ออน เดอะ โฟน)
การคุยโทรศัพท์ตอนนี้ไม่ถูกกาลเทศะนะ


beating around the bush
(
บี-ทิง อะเรา-น-ด เดอะ เบอ-ช) แปลตรงๆก็คือการทุบรอบๆพุ่มไม้แต่ความหมายที่แท้จริงก็คือ การหลีกเลี่ยงการพูดถึงประเด็นหลัก หรือ การพูดอ้อมค้อม นั่นเอง
ตัวอย่างประโยค
Quit beating around the bush and just tell me what's going on.
(
ควิท บี-ทิง อะเรา-น-ด เดอะ เบอ-ช แอน-ด จัส-ท เท็ว-ล มี วัท-ส โกอิง ออน)
เลิกพูดอ้อมค้อมได้แล้วและบอกฉันว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่





a blessing in disguise
น. (อะ เบล็ส-ซิง อิน ดิส-สไค-ส) แปลตรงๆคือ พรที่ซ่อนเร้นหรือพรที่ปลอมตัวเป็นสิ่งที่ไม่ดี (blessing=พร in disguise=ปลอมตัว) แต่ความหมายที่แท้จริงคือ อะไรที่ในตอนแรกเราไม่ได้มองว่าเป็นสิ่งที่ดีแต่สุดท้ายสิ่งนั้นกลายเป็นเรื่องที่ดีหรือพรนั่นเอง ซึ่งบางคนอาจจะมองว่า มันเป็นสิ่งที่ดี่ที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญแต่สำนวนนี้อยากให้เรามีมุมมองว่า สิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้นคือพรสำหรับเรา
ตัวอย่างประโยค
I turned into the wrong street, but it was a blessing in disguise because I ended up finding the most delicious new restaurant.
(ไอ เทอร-น-ด อินทู เดอะ รอง สทรี-ท บัท อิท วัส อะ เบลส-ซิง บี-คัส ไอ เอ็น-เด็ด อัพ ไฟ-น-ดิง เดอะ โมส-ท ดิลิเชอ-ซ นู เร็ส-เทอร-รอน-ท)

ฉันเลี้ยวเข้าผิดซอยแต่มันเป็น a blessing in disguise เพราะสุดท้ายฉันเจอร้านอาหารใหม่ที่อร่อยสุดๆ


a piece of cake
น. (อะ พี-ส อัฟ เค-ค) อาจจะแปลว่า เค้กหนึ่งชิ้น ในบางกรณีก็ได้ แต่คำนี้มีอีกความหายหนึ่งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับขนมเค้กเลย  จริงๆแล้วคำนี้เป็นสำนวนที่ใช้บ่อยพอสมควรที่แปลว่า เรื่องง่ายๆ เรื่องหมูๆ หรือ เรื่องกล้วยๆ นั่นเองนะครับ
ตัวอย่างประโยค
Work today was a piece of cake!
(เวอร-ค ถะเด วัส อะ พี-ส อัฟ เค-ค)

วันนี้การงานง่ายมากเลย

a toss-up
น. (อะ ทอ-ส อัพ)
1. ผลที่ไม่ชัดเจนว่าฝ่ายไหนชนะ
2. อะไรที่ก้ำกึ่ง ไล่เลี่ย หรือผลลัพธ์ที่สูสีกัน
ตัวอย่างประโยค
The results will be a toss-up because both teams are equally talented.
(เดอะ รีโซ-ล-ส วิว-ล บี อะ ทอ-ส อัพ บีเคอ-ส โบท ทีม-ส อา-ร อีควิลี แท-ลิน-ถิด)

ผลการแข่งขันจะสูสีกันเพราะทั้งสองทีมต่างก็เก่งพอๆกัน


back seat driver 
น. (แบ-ค ซี-ท ไดร-เฟอร) ไม่ได้หมายถึงว่ามีคนขับรถจากเบาะหลัง  (เดี๋ยวเอื้อมไม่ถึงพวงมาลัย  แหะๆ) ความวามหมายที่แท้จริงของสำนวนนี้ก็คือว่า
people who criticize from the sidelines 
(พี-โพ-ล ฮู ขริท-เถอะ-ไซ-ส ฟรัม เดอะ ไซ-ด-ไล-น-ส)

ก็แปลว่า คนที่วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่ตนเองไม่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งก็เปรียบเสมือน คนที่นั่งเบาะหลังรถและสอนการขับรถที่ไร้ประโยชน์กับคนขับ นะครับผม
ตัวอย่างประโยค
ถ้าสมมุติว่าเพื่อนที่นั่งในรถเราวิจารณ์วิธีขับรถเรา ก็บอกเพื่อนได้ว่า
Relax! I'm driving fine.  You don't need to be a back seat driver.
(รี-แล็ค-ส ไอ-ม ไดร-ฟิง ไฟ-น ยู โดน-ท นี-ด ทู บี อะ แบ-ค ซี-ท ไดร-เฟอร)

ซึ่งแปลว่า ใจเย็นๆ ฉันขับรถดีแล้ว คุณไม่ต้องเป็นคนขับจากด้านหลังก็ได้
คุณเป็น a back seat driver รึเปล่าเอ่ย


คลิกที่นี่เพื่อดูโพสท์อื่นๆ







8 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ17 กันยายน 2554 เวลา 14:52

    Just come in to say hi. I saw you in one of Thai TV shows but didn't know that you also have a blog. I would recommend your blog to one of my friend 'cause it looks like a kind of blog he will love. I also run one of my own (in blogspot); 'Legal English for Thais'. Your visit is most welcome.

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ25 กันยายน 2554 เวลา 21:17

    back seat driver. น่าจะคล้ายกับสำนวนไทย ที่ว่ามือไม่พายแต่เอาเท้าลาน้ำ น่ะค่ะ ไม่ช่วยทำให้มันดีขึ้นแล้วยังมาเป็นตัวถ่วงคนอื่น

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ29 กันยายน 2554 เวลา 20:09

    I love your blog, facebook, twitter, youtube, namely everything :)

    Since, rarely have I studied idioms in school.

    เกษตร ธ.

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ29 กันยายน 2554 เวลา 21:52

    มีประโยชน์มากๆครับ อยากเรียนรู้สำนวนแบบนี้มานานแล้ว คอยอัพเพิ่มเรื่อยๆนะครับ จะคอยติดตามครับ Keep it up!

    ตอบลบ
  5. a blessing in disguise หมายความว่าพลิกสถานการณ์ ได้ไหมคะ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ11 ตุลาคม 2554 เวลา 23:59

    ถ้าจะพูดว่า อย่าทำงานหักโหมนักน่ะ เป็นห่วง จะต้องพูดว่ายังไงเหรอค่ะ

    ตอบลบ
  7. a blessing in disguiseมีความหมายคล้ายๆพลิกสถานการณ์ครับ เป็นข้อสังเกตที่ดีเยี่ยมครับคุณCat18

    อย่าทำงานหักโหมนักน่ะ เป็นห่วง
    Don't overwork yourself! I'm worried about you!

    ตอบลบ

คอร์สออนไลน์